Multilingual ไทย (Thai)

คณะนักร้องประสานเสียงคอนสปิราเร่ (Conspirare) ส่งต่อความหมายของความรักในการประชุมโรงเรียน

นักศึกษาชื่อแมททิว เชปพาร์ด (Matthew Shepard) ได้เสียชีวิตในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ.1998 หลังจากถูกลักพาตัวและทำร้ายร่างกายโดยชายฉกรรจ์สองคนที่ ลารามี่ (Laramie) มลรัฐไวโอมมิ่ง (Wyoming) นักประพันธ์นามว่า เครก เฮลลา จอห์นสัน (Craig Hella Johnson) รวมด้วยคณะนักร้องประสานเสียงที่ได้รับรางวัลแกรมมี่นำโดยจอห์นสัน ได้สร้างวงคอนสปิราเร่เพื่อเล่าเรื่องของเชปพาร์ดในรูปของงานเพลงที่มีชื่อว่า ‘Considering Matthew Shepard.’

 

จอห์นสันและนักร้องในวงคอนสปิราเร่แสดงและพูดถึงผลงานบางส่วนของพวกเขาในช่วงการประชุมโรงเรียนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

เป้าหมายของจอห์นสันในการสร้างคอนสปิราเร่คือกลุ่มนักดนตรีที่มีความสามารถและมีความทุ่มเทให้กับงานและผลกระทบที่งานเหล่านั้นจะสร้างให้กับโลก เขากล่าวเพิ่มเติมว่าคอนสปิราเร่นี้ได้สามารถทำเป้าหมายของเขาให้ลุล่วงแล้ว

 

“ผมอยากรู้ว่าเราจะสามารถสร้างสังคมของนักดนตรีที่สร้างสรรค์ผลงานดนตรีได้ดี ผมสงสัยว่ากลุ่มนี้ใช่กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ทุ่มเท่ให้กับการดูแลซึ่งกันและกันรวมถึงการดูแลโลกไม่ใช่แค่ตั้งใจในการสร้างดนตรีได้หากเป็นแต่ของขวัญจากการใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือสื่อสารให้กับทุกคน การให้ดนตรีถ่ายทอดความหมาย รู้สึกและระวังถึงผลกระทบต่อผู้คนที่สร้างโดยศิลปะแขนงนี้และความสามารถที่มันจะเปลี่ยนมุมมองของเรา” กล่าวโดยจอห์นสัน ระหว่างการประชุมโรงเรียน

 

เฮนรี่ เครเตอร์ (Henry Crater) นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 และสมาชิกของชมรมคอรัส (The Fidelio Society and Chorus) กล่าวว่าการที่เขาได้เห็นวงคอนสปิราเร่แสดงต่อหน้าเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้น เขากล่าวเพิ่มเติมว่าเขาหวังว่านักเรียนคนอื่นจะได้รับแรงบันดาลใจให้ไปชมการแสดงของวงคอนสปิราเร่ในคืนวันนั้น

 

“ผมคิดว่าการประชุมโรงเรียนเป็นสิ่งหนึ่งที่ดีมากเนื่องจากผมไม่เคยได้ยินคอนสปิราเร่ร้องเพลงของเขาทั้งหมด การแสดงในการประชุมโรงเรียนถือว่าเป็นโชว์สั้นๆที่ทำให้อยากดูต่อ ผมรู้สึกดีใจที่วงคอนสปิราเร่ร้องที่การประชุมเพราะผมเชื่อว่านักเรียนหลายคนก็คงรู้สึก ‘ว้าว การแสดงเจ๋งมาก เราต้องไปดูกันคืนนี้’ ผมหวังว่านักเรียนหลายคนจะคิดเช่นนี้จริงๆ” เครเตอร์กล่าว

 

จอห์นสันได้อธิบายถึงเพลงที่แสดงในการแสดง ‘Considering Matthew Shepard’ ว่าเป้าหมายของเพลงคือเพื่อสร้างความกลมเกลียวทั้งในตัวบุคคลและชุมชน เขาได้เน้นยำถึงความสามารถที่พิเศษและแตกต่างกันของนักร้องคอนสปิราเร่และของทุกคนในสังคม

 

“อีกอย่างหนึ่งคือ เรามีความสามารถทั้งในการเป็นบุคคลอย่างเต็มที่และเข้าใจความหมายของหลักการว่าสิ่งทั้งปวงนั้นมีความหมายมากกว่าผลรวมของแต่ละส่วนเพื่อให้แม้ว่าเราอาจจะมีความฝันในสิ่งที่อยากทำและเส้นทางของตัวเอง เรายังสามารถยกย่องพรสวรรค์ มุมมอง และประสบการณ์ของเราหรือเป็นตัวของตัวเองทั้งๆที่เข้าใจว่าเราแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเรารวมตัวกันหรือเปล่า” จอห์นสันกล่าว

จอห์นสันก็ได้อธิบายถึงวิธีที่คอนสปิราเร่ได้พยายามสำรวจความแตกแยกระหว่างกลุ่มบุคคลผ่านดนตรีของเค้า รวมถึงเรื่องราวที่ดนตรีได้เล่า จอห์นสันกล่าวว่าตัวเองได้พยายามตอบหรืออย่างน้อยถามคำถามที่เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และสิ่งที่ผูกเราไว้ด้วยกัน

“เราเล่าเรื่องราวเพื่อที่จะเรียนรู้ถึงความเป็นเราและความจำของเรา ซึ่งแต่ละคนก็ทำในวิธีพิเศษของตนเอง เราเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องราวที่ช้ำใจ แต่เราก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่จำเป็นตองจำ เราอยากรวมตัวกันในที่แบบนี้และถามคำถามแบบนี้เรื่องสภาพมนุษย์ของเรา เราได้ถามตนเองว่าเรามีอะไรที่คล้ายกับผู้กระทำผิดอย่างไร ผมเองไม่เคยฆ่าใครแต่ผมได้มีส่วนร่วมในสังคมที่ทนกับการกระทำที่แสดงความเกลียดชังเหรอเปล่า ผมอยากจะถามคำถามแบบนี้กับตัวเองและอยากให้เราทุกคนถามกัน เราจะทำให้สังคมเรามีความรักมากขึ้นได้อย่างไร” จอห์นสันกล่าว

เรีอา ชันดราน (Rhea Chandran) นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 หัวหน้าของชมรมฟิดลเดลีโอ้ (Fidelio) และสมาชิกของวงคอรัส (Chorus) ได้อธิบายเรื่องผลกระทบของการที่ได้รองพร้อมกับคอนสปิราเร่และเห็นพวกเค้าร้องเพลงจาก ‘Considering Matthew Shepard’ ต่อเธอเอง ทั้งชมรมฟิดลเดลีโอ้และวงคอรัสได้มีโอกาสซ้อมเพลงของจอห์นสันและร้องเพลง ‘All of Us’ พร้อมกับคอนสปิราเร่ในคอนเสิร์ตของเค้า

ชันดราน พร้อมด้วย แคทเธอรีน หวัง (Katherine Wang) ‘19 และ แอบบิเกล จอห์นสัน (Abigail Johnson) ‘19 เปิดงาน ASM โดยการเชิญ เหลา จอห์นสัน และวงคอนสปิราเร่ขึ้นเวที

“การที่เราได้เปิดงานนี้เป็นสิ่งที่ที่เร้าใจเพราะกลุ่มนี้ได้มีส่วนในชีวิตของนักเรียนที่แอนโดเวอร์และเราได้ร้องเพลงของทั้งจอห์นสันและคอนสปิราเร่มาหนึ่งปีแล้ว” ชันดรานกล่าว

จอห์นสันได้พยายามรวบรวมความประเดี๋ยวเดียวของชีวิตเข้าไปกับการแสดงเพือเตือนผู้ชมเรื่องรากฐานที่ได้ลืมมานานแล้ว

“มีทางที่จะให้เราระลึกถึงวิถีการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายกว่านี้หรือเปล่า ในโลกที่ปั่นป่วนอย่างนี้ ยังมีทางที่จะจำตัวเราเองได้หรือเปล่า เราดำเนินชีวิตแห่งการลืม เราลืมความเป็นเราอย่างดั้งเดิม” จอห์นสันกล่าว