สืบเนื่องจากการประกาศออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน จอห์น พัลฟรีย์ ถือโอกาสใช้การประชุมสามัญโรงเรียนที่จัดขึ้นทุกวันพุธในการอธิบายการตัดสินใจของเขา พัลฟรีย์ตั้งใจที่จะดำรงตำแหน่งประธานคนที่ 6 ขององค์ไม่แสวงหาผลกำไร จอห์น ดี และ แคทเธอรีน ที แมคออเธอร์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองชิคาโก้ องค์กรนี้มีชื่อเสียงในการสนับสนุนผลงานร่วมกว่าล้านเหรียญสหรัฐ พัลฟรีย์กล่าวว่าการตัดสินใจออกจากตำแหน่งนี้เริ่มขึ้นจากที่เขาได้รับแรงบันดาลใจและความตั้งใจในการดำเนินรอบตามแนวคิดของโรงเรียนเพื่อตอบแทนสังคม (Non Sibi)
“วันแรกที่ผมเข้ามาที่แอนโดเวอร์ สิ่งที่ส่งผลต่อผมมากที่สุดคือการเดินข้ามถนนเพื่อไปทำงานตอบแทนสังคมตามคำขวัญของโรงเรียน (Non Sibi) สิ่งในเป็นสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจด้วยหัวใจของผมว่าจะรับงานนี้ ไม่ใช่เพื่อเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนักเรียน ไม่ใช่เพื่อเป็นอาจารย์ที่ดีที่สุด แต่เพื่อเป็นคนหนึ่งที่แสดงให้นักเรียนเห็นถึงพลังของการตอบแทนสังคม เมื่อปีที่ผ่านมา โอกาสที่จะตอบแทนสังคมในแวดวงที่มีผลกระทบมากขึ้นผ่านองค์กรแมคออเธอร์ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะทำ” พัลฟรีย์กล่าวในการประชุมสามัญของโรงเรียน
พัลฟรีย์กล่าวว่าเขาอยากให้โรงเรียนสนับสนุนความหลากหลายทางเชื้อชาติ ความเท่าเทียม และความเป็นหนึ่งอันเดียวกันในอนาคต เขาได้เน้นย้ำว่าเราได้มีการเริ่มต้นเพื่อพัฒนามาสิ่งเหล่านี้มาบ้างแล้ว เขายังได้พูดถึงประสบการณ์ของการล่วงละเมิดทางเพศพร้อมเน้นยำให้โรงเรียนสร้างวัฒนธรรมการให้ความยินยอม
“ผมรู้สึกว่าเรายังสามารถพัฒนาด้านวัฒนธรรมการยินยอมและการให้เกียรติกันในโรงเรียนได้มากขึ้น ผมจะพูดอีกเหมือนกันว่าผมเคยเป็นเหยื่อให้กับการล่วงละเมิดทางเพศเมื่อตอนผมอายุเท่าพวกคุณ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ได้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแต่เป็นในยิม ผมก็รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัว เหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้สึกไม่ดี ซึ่งมันเกิดขึ้นจากคนที่โตกว่าที่ผมให้ความไว้วางใจ การที่ผมพูดนั้นไม่ได้เพื่อให้นักเรียนมองผมแตกต่างออกไป แต่เพียงอยากให้นักเรียนคิดว่า ‘นี่คือพวกเราทุกคน’ การร่วมมือกันของทุกคนในฐานะมนุษย์และผู้ใหญ่จะสามารถทำให้เราแก้ไขปัญหาได้” พัลฟรีย์กล่าวในการประชุมสามัญของโรงเรียน
ในส่วนของการพูดของเขา เขาได้เรียกทั้งนักเรียนและคณาจารย์เพื่อสร้างความใส่ใจของความเท่าเทียม การให้เกียรติกัน สุขภาพจิต ทั้งยังเน้นย้ำให้สามารถแก้ไขปัญหาในฐานะชุมชนเดียวกัน
พัลฟรีย์กล่าวในบทสัมภาษณ์กับเดอะ ฟิลิปเปียน (The Phillipian) ว่า “การสนับสนุนตากนักเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศคือการที่เพื่อนตอบสนองต่อเหตุการณ์แตะต่างออกไป สิ่งหนึ่งที่พึงระลึกไว้เสมอคือการที่ทุกคนให้การสนับสนุนอย่างมากกับคนที่ต้องผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายเหล่านั้นมา”
คำพูดของพัลฟรีย์ในการสนับสนุนวัฒนธรรมเชิงบวก สะท้อนความคิดของ อเล็กซ์ แอชแมน (Alex Ashman) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
แอชแมนกล่าวว่า “เป้าหมายสำคัญที่พัลฟรีย์กล่าวต่อหน้าทั้งโรงเรียนสำคัญมาก และผมหวังว่าแอนโดเวอร์จะยังคงสนับสนุนความเท่าเทียม วัฒนธรรมการยินยอม และสุขภาพจิตเป็นหนึ่งในหัวใจหลักในอนาคต ความมุ่งมั่นของท่านผู้อำนวยการโรงเรียนในการทำให้โรงเรียนสนับสนุนการตอบแทนสังคมเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก และผมก็รู้สึกดีใจที่เขาสามารถนำการตอบแทนสังคมนี้ไปเปลี่ยนโลกมากยิ่งกว่าเดิม” แอชแมนกล่าว
แม้ว่าพัลฟรีย์จะลาออกในสิ้นปีการศึกษา ค.ศ. 2018-2019 นักเรียนอย่าง อิทเซลท์ เรเยส (Itzelt Reyes) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เชื่อว่าคุณงามความดีของเขาจะดำรงอยู่ เรเยสรู้สึกดีใจในการตัดสินใจของพัลฟรีย์ที่สนับสนุนการรับนักเรียนเข้าศึกษาโดยไม่สนใจว่านักเรียนจะสามารถจ่ายค่าเทอมได้หรือไม่ ในฐานะที่เธอก็เป็นนักเรียนที่ได้รับโอกาสมากมายจากโรงเรียน
“แม้ว่าเขามีตั้งหลายอย่างที่สามารถเน้นได้ ฉันคิดว่าการตัดสินใจของเขาที่จะทำการตอบรับนักเรียนอย่างไม่พิจารณาการเงินได้เปิดโอกาสให้นักเรียนหลายคนที่โรงเรียน รวมถึงฉัน การที่เขาเน้นไปด้านความเท่าเทียมและความต้อนรับทำให้นักเรียนรู้สึกว่ามีโอกาสเดียวกันหมดและโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองได้ที่แอนโดเวอร์” เรเยสกล่าว
ไมเคิล บาร์เกอร์ (Michael Barker) ผู้อำนวยการทางด้านงานวิจัย ข้อมูล และบริการห้องสมุด พูดเรื่องความสัมพันของพัลฟรีย์กับนักเรียนและความเป็นผู้นำของเขา
“ฉันคิดว่ามรดกของเขาคือความพยายามที่จะปรับปรุงชีวิดของนักเรียนอย่างจริงใจ เขาพยายามเรียนรู้ชื่อของนักเรียนทุกคนเพื่อเหตุผลหนึ่ง เพื่อที่จะให้นักเรียนทุกคนรู้สึกอยู่บ้านและถูกดูแลที่นี่ อีกอย่างคือ ฉันคิดว่าเขามีมรดกของความเป็นผู้นำและวิสัยทัศน์ ในเวลาที่เขาอยู่ โรงเรียนได้ประสบกับจุดที่ลำบากแต่เขาได้หาทางที่จะนำชุมชนนี้ผ่านมันได้” บาร์เกอร์กล่าว
ในช่วง ASM พัลฟรีย์เปิดการบรรยายโดยพูดถึงศิษย์เก่าที่มีชท่อเสียงและยอมรับความนับสนุนต่อแอนโดเวอร์ที่ได้เห็นวันนี้ โซฟี่ ลาวาที่ (Sophie Hlavaty) นักเรียนมัธยมปี 2 บอกว่าเขาชอบความหมายที่พัลฟรีย์ได้สื่อ
“ฉันชอบที่พัลฟรีย์พูดถึงประวัติศาสตร์ที่กำลังเขียนอยู่เรื่อยๆเรื่องแอนโดเวอร์ตั้งแต่วันแรก และการที่เราอยู่ในประวัติศาสตร์นั้น” ลาวาที่กล่าว
ในความเป็นนักเรียนรุ่นแรกที่มีรายได้ตำ่ เรเยสได้ให้ความขอลคุณต่อพัลฟรีย์ที่เขาเป็นครูที่ให้ความสนับสนุนในช่วงเวลาที่แอนโดเวอร์ของเขา
“ฉันสามารถพูดได้เลยว่าการมาจากฐานะรุ่นแรกจากครอบครัวจนและไม่มีใครนำฉันไม่ได้ช่วยฉันที่แอนโดเวอร์ ฉันคิดว่าความเป็นผู้นำของพัลฟรีย์ทำให้ฉันรู้สึกต้อนรับที่ชุมชนนี้” เรเยสกล่าว
พัลฟรีย์ปิดท้ายด้วยคำพูดสำหรับพวกนักเรียนเรื่องสิ่งที่เขาได้เรียนรู้เมื่ออยู่แอนโดเวอร์ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
เขากล่าว่า “พวกคุณสอนฉันว่ามีโน้ตในความถี่ที่ฉันไม่รู้ว่ามี คุณสอนฉันเรื่องความรักที่ฉันไม่รู้ว่ามีในตัวเองหรือในสังคม มันมีอะไรพิเศษที่แอนโดเวอร์ที่ไม่มีที่โรงเรียนมัธยมเก่าของฉัน มันมีอะไรที่ลึกและเชท่อมกันและพวกคุณสอนฉันว่ามันมีความรักที่เข้าถึงกระดูก แล้วฉันสามารถบอกได้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ฉันจะให้กับแอนโดเวอร์มากสุดเมื่อถึงเวลาออกในช่วงฤดูร้อน”
